โคตรดราม่า! ฟ้าขาวควงโปลเข้า-จิงโจ้ล้มโคนม

1 คนดู

ฟุตบอลโลก 2022 นัดปิดกลุ่มซี และดี วันพุธที่ผ่านมา ปรากฏผลลัพธ์ตอนจบสุดดราม่าไม่เว้นแม้แต่สนามเดียว โดย อาร์เจนติน่า สยบ โปแลนด์ ไม่ลำบาก 2-0 จนกระโจนขึ้นยึดแชมป์กลุ่ม แต่คราวเดียวกัน โปแลนด์ ยังตามเข้ารอบไปได้เนื่องจากผลของคู่ เม็กซิโก-ซาอุฯ ด้าน เดนมาร์ก หนึ่งในทีมที่ถูกยกเป็นม้ามืด ดับสนิทเมื่อโดนทีเด็ด ออสเตรเลีย ยัดเยียดความปราชัย 1-0

เกมของกลุ่มดี ลงเล่นก่อนในช่วงค่ำ โดย เดนมาร์ก มีหน้าที่ต้องลงไปเอาชนะ ออสเตรเลีย สถานเดียวเท่านั้นภายหลังสองเกมแรกมีคะแนนเดียว และ แคสเปอร์ ฮูลมันด์ ปรับแผนมาใช้แบ็กโฟร์ ส่วนเกมรุกวาง มาร์ติน เบรธเวธ ค้ำหน้าเป้า และแม้ทีมโคนมจะคุมสถานการณ์ได้มากกว่า แต่ก็มักเล่นพลาดกันเองทั้งกลางสนามและพื้นที่อันตราย จนครึ่งหลังกลายเป็น ออสเตรเลีย ได้เฮรับประตูนำ 1-0 จากจังหวะสวนกลับของ แม็ทธิว เลคกี้ ที่พาลูกจี้ขึ้นไปยิงยัดผ่านขา โยอาคิม เมห์เล่ เข้าเสาไกล

แม้ว่าทีมโคนมจะสร้างโอกาสจบได้ทั้งหมด 14 ครั้ง แต่ก็ตรงกรอบแค่ 3 และแทบไม่มีเลยที่ แม็ต ไรอัน นายทวารออสซี่ จะต้องงัดท่ายากออกมาปัดป้องประตู จนท้ายที่สุดเกมก็จบที่ชัยชนะของ ออสเตรเลีย 1-0 ส่วนทีมที่เข้าถึงตัดเชือกยูโร 2020 และรั้งอันดับ 10 ของโลกในตารางฟีฟ่าแรงกิ้งอย่าง เดนมาร์ก ต้องตกรอบแรกด้วยการเป็นบ๊วยของกลุ่ม เอาชนะใครไม่เป็นทั้งสิ้นจาก 3 นัด ขณะที่่ “ซอคเกอรูส์” ทะลุเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายเป็นครั้งที่ 2 ในการเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย 6 สมัย ถัดจากปี 2006

ชัยชนะของ ออสเตรเลีย ยังเป็นการดับความหวังของ ตูนิเซีย ลงอย่างสนิทด้วย ทั้งที่ ตูนิเซีย สู้อุตส่าห์กำชัยเหนือทีมสำรอง ฝรั่งเศส ที่เปลี่ยนไลน์อัพจากนัดที่แล้ว 9 คน 1-0 โดยที่ท้ายเกมมีดราม่า ลูกยิงเข้าของ อองตวน กรีซมันน์ ถูกยกเลิก แต่ก็ยังไม่เพียงพอให้ได้ไปต่อในรอบน็อกเอาต์แต่อย่างใด

หลังจบเกม แคสเปอร์ ฮูลมันด์ กุนซือทีมชาติเดนมาร์ก กล่าวยอมรับความพ่ายแพ้แต่โดยดี โดยชี้ว่าฟอร์มการเล่นของทีมไม่อยู่ในระดับที่น่าพอใจ “เราไม่ได้เล่นในระดับความเร็วของพวกเราเอง ที่จริงเราเริ่มต้นเกมได้ดีมาก แต่หลังจากนั้นก็กลับหลุดออกจากเกมไปเอง” พร้อมกับเปรยว่า ตนอาจตัดสินใจรับผิดชอบต่อความล้มเหลวนี้ด้วยการยื่นซองขาวลาออกจากตำแหน่ง “มันเป็นเรื่องสำคัญที่คงจะต้องเว้นระยะออกไปสักเล็กน้อย เพื่อให้สามารถพิจารณาสิ่งต่างๆ ได้อย่างสมเหตุสมผล ตอนนี้ผมยังทำทันทีไม่ได้ ด้วยอารมณ์ความรู้สึกที่มากมาย และความรู้สึกผิดหวังอย่างมากเช่นกัน”

สำหรับในคู่ดึก เกมปิดกลุ่มซี อาร์เจนติน่า ปราบ โปแลนด์ 2-0 แบบแทบจะพับสนามบุกใส่ฝ่ายเดียว สร้างโอกาสยิงประตูรวม 24 ครั้ง ลิโอเนล เมสซี่ มีพลาดจุดโทษในครึ่งแรก ก่อนฟ้าขาวได้เฮจาก อเล็กซิส แม็คอัลลิสเตอร์ น.46 และ ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ น.67 ด้าน โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ หายไปจากเกมอย่างสิ้นเชิง ไม่มีโอกาสยิงตรงกรอบเลยสักครั้ง

ที่ดราม่าหนักเป็นการหักมุมตอนจบของเกมระหว่าง ซาอุดีอาระเบีย กับ เม็กซิโก เพราะอันที่จริง ทัพจังโก้ได้กำตั๋วเข้ารอบน็อกเอาต์ 16 ทีมสุดท้ายไว้อยู่ในมือแล้ว จากการทะลวงประตูซาอุฯ สองเม็ดตอนต้นครึ่งหลัง เฮนรี่ มาร์ติน น.47 กับ หลุยส์ ชาเวซ น.52 ซึ่งหากเกมจบตรงนี้ เม็กซิโก จะตามหลัง อาร์เจนติน่า เข้ารอบไป และเป็นการรักษามาตรฐานการเข้าถึงรอบ 16 ทีมเป็นอย่างน้อย 9 ทัวร์นาเมนต์ติดต่อกัน หรือนับตั้งแต่ 1986 มาแล้ว 

อย่างไรก็ตาม กลายเป็นว่า ซาอุฯ มาได้ประตูตีไข่แตกช่วงทดเจ็บ 90+5 จาก ซาเล็ม อัล-ดอว์ซารี ทำให้เกมจบที่สกอร์ 2-1 และนำมาซึ่งบทสรุปอย่างการที่ เม็กซิโก มี 4 แต้ม แต่ผลต่างประตูได้เสียติดลบ 1 ขณะที่ โปแลนด์ ก็มี 4 แต้มเช่นกัน แต่ประตูได้เสียเป็นศูนย์ เท่ากับ โปแลนด์ รับส้มเข่งใหญ่ เข้าป้ายอันดับ 2 ของกลุ่มซี กอดคอกับ อาร์เจนติน่า เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายไปอย่างปาฏิหาริย์ 

สำหรับรอบ 16 ทีมสุดท้าย ที่ได้โปรแกรมเพิ่มมาอีก 2 คู่นั้น ประกอบด้วย วันเสาร์ 3 ธ.ค. คู่ดึกตีสอง อาร์เจนติน่า พบ ออสเตรเลีย และวันอาทิตย์ที่ 4 ธ.ค. คู่เร็วสี่ทุ่ม ฝรั่งเศส ดวล โปแลนด์ 

ทั้งนี้ เคราร์โด้ มาร์ติโน่ กุนซือเม็กซิโก ได้ประกาศหลังเกมว่าเขาตัดสินใจสละเก้าอี้ ลงจากตำแหน่งเพื่อรับผิดชอบผลงานตกรอบแล้ว เรียบร้อยแล้ว แต่จะมีผลก็ต่อเมื่อสมาคมฟุตบอลเม็กซิโกรับเรื่องอย่างเป็นทางการเสียก่อน

แชร์ให้เพื่อน