หมากรุกซิวที่สาม! ฮึดกำราบโมร็อกโก 2-1

0 คนดู

เจ้าของอันดับ 3 ฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ ได้แก่ โครเอเชีย รองแชมป์เก่า ซึ่งเอาชนะ โมร็อกโก ได้อย่างสนุก 2-1 ในนัดชิงเหรียญทองแดง ที่สนาม คาลิฟา อินเตอร์เนชันแนล สเตเดี้ยม วันเสาร์ที่ 17 ธ.ค.

แมตช์นี้ ทั้ง ซลัตโก้ ดาลิช และ วาลิด เรกรากี แม้ต่างก็ยังต้องการชัยชนะเพื่อคว้ารางวัลปลอบใจ แต่ก็เลือกที่จะเปลี่ยนทีมหลายตำแหน่งทั้งคู่ โครเอเชีย เปิดทางให้สำรองอย่าง มิสลาฟ ออร์ซิช, มาร์โก ลิวาย่า, ลอฟโร มาเยอร์, โยซิป ซูตาโล่, โยซิป สตานิซิช ลงสนาม พร้อมปรับระบบเป็น 3-5-2

ด้าน โมร็อกโก สถานการณ์บังคับให้ต้องเปลี่ยนเมื่อทั้ง โรแม็ง ซาอิสส์, นาเยฟ อาแกร์ด, นูสแซร์ มาซราอุย ต่างบาดเจ็บ แต่แนวรุกยังคงเดิมที่ ฮาคิม ซีเย็ค, ยุสเซฟ เอ็น-เนซีรี่, โซฟียาน บูฟาล 

เริ่มเกมขึ้นเพียง 9 นาที โครเอเชีย ก็ขยับนำ 1-0 อย่างรวดเร็ว จากฟรีคิกลูกสูตรเปิดขึ้นหน้าให้ อีวาน เปริซิช โหม่งกลับเข้าตรงกลาง ยอสโก้ กวาร์ดิโอล พุ่งโขกต่อเน้นๆ ส่งบอลเสียบเสาโดยที่ ยาสซีน บูนู ตามปัดป้องไม่ทัน 

แต่ว่าสองนาทีให้หลัง โมร็อกโก ก็ตามทวงคืนได้เร็วเช่นกัน จากฟรีคิกริมเส้นขวาเปิดเข้าใน ลอฟโร มาเยอร์ โหม่งสกัดกลายเป็นบอลทะลักกลับหลังเข้าหาปากประตู อัชราฟ ดารี สบช่องเข้าชาร์จจ่อๆ ไม่เหลือ เปลี่ยนสกอร์เป็น 1-1

ก่อนที่ครึ่งแรกจะจบเสมอกัน โครเอเชีย ก็ขึ้นนำได้อีกครั้งจากการเสียบอลหน้าเขตตัวเองของ บิลัล เอล คันนุส จนลูกถูกย้ำขึ้นไปจบที่ มิสลาฟ ออร์ซิช เอี้ยวตัวปั่นด้วยขวาส่งลูกกระแทกเสาไกลเข้าไปอย่างสวยงาม โครเอเชีย นำ 2-1 เมื่อสิ้นครึ่งแรก

ต่อครึ่งหลัง เกมยังเป็น โครเอเชีย ที่ทำได้ดีกว่าชัด โดยเฉพาะช่วงท้าย นาที 87 โครเอเชีย น่าได้เพิ่มอย่างยิ่ง มาเตโอ โควาซิช ทะลุเข้ายิงโล่งๆ ทางซ้ายเขตโทษ แต่แปหลุดเสาไกลออกไปเอง 

ทดเจ็บ 90+6 โมร็อกโก ก็เกือบทำช็อก ยุสเซฟ เอ็น-เนซีรี่ สบโอกาสขึ้นโหม่งโล่งๆ ในกรอบหกหลา แต่ลูกลอยไปตกบนเพดานตาข่ายอย่างน่าเสียดาย ส่งผลให้เกมจบลงที่ โครเอเชีย ชนะ 2-1 ครองอันดับ 3 ฟุตบอลโลก 2022 และเป็นหนที่ 2 ถัดจาก 1998

หลังจบเกม ซลัตโก้ ดาลิช กุนซือตาหมากรุก กล่าวว่า “นี่คือเหรียญทองแดงที่มีประกายสีทอง เราคว้าชัยชนะในเกมที่ยากลำบากมากได้ ดังนั้นนี่คือเหรียญรางวัลสำหรับชาวโครแอตทุกคน” 

“มันเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมมากจริงๆ ที่เราได้เหรียญรางวัลทั้งสองครั้งในสองทัวร์นาเมนต์หลังสุด และผมก็ขอแสดงความยินดีกับลูกทีมของผมทุกคนด้วย”

ด้าน วาลิด เรกรากี ระบุว่า “ก่อนหน้าทัวร์นาเมนต์ ทุกคนสงสัยเรา แต่เรามาได้ไกลเกินความคาดหมาย แต่มันก็ยังดีไม่พอ เราจำเป็นต้องสร้างตัวอย่างเพื่ออนาคต” 

“มีบางเรื่องที่กินใจผมมาก ตอนที่ผมเห็นภาพเด็กๆ เพราะฟุตบอลทำให้ผู้คนมีฝัน เราปล่อยให้เด็กๆ ฝัน เราต้องรักษาฝันให้มีชีวิต เด็กๆ ในโมร็อกโก และทั่วโลก ฝันที่จะได้แชมป์โลก และมันมีความหมายต่อผมยิ่งกว่าการชนะในเกมฟุตบอลโลกจริงๆ เสียอีก”

“เราประสบความสำเร็จอย่างวิเศษ แต่เราต้องการทำให้ได้อย่างนี้อีก หากเราผ่านเข้ารอบแปดทีม หรือรอบตัดเชือกเป็นประจำ สักวันเราก็จะได้แชมป์โลก”

แชร์ให้เพื่อน