เจ้าภาพฟุตบอลโลก 2022 กาตาร์ ไปไม่เป็นอย่างสิ้นเชิงในเกมเปิดสนามเวิลด์คัพฉบับตะวันออกกลาง เมื่อวันอาทิตย์ที่ 20 พ.ย. ที่ผ่านมา ด้วยการแพ้ เอกวาดอร์ 0-2 แบบรูปเกมสู้ไม่ได้ ชนิดว่าแฟนบอลบางกลุ่มเลือกจะที่ออกจากสนาม กลับบ้านตั้งแต่จบครึ่งแรกแล้ว
เกมที่อัล เบย์ท สเตเดี้ยม เมืองอัลคอร์ เมื่อวันอาทิตย์ ถูกจับจ้องจากทั้งโลก ด้วยความที่เป็นนัดเปิดสนามของฟตุบอลโลกครั้งพิเศษ จัดแข่งในหน้าหนาวปลายปีเป็นครั้งแรก อีกทั้งยังมีกระแสข่าวว่า ชาติเจ้าภาพได้อัดเงินใต้โต๊ะ จ้างนักเตะเอกวาดอร์ล้มบอล เพื่อให้ กาตาร์ ได้ชัยชนะในเกมนี้
อย่างไรก็ตาม กลายเป็น เอกวาดอร์ ที่คุมทุกอย่างได้อย่างเบ็ดเสร็จตั้งแต่ต้นจนจบ พังตาข่ายได้ตั้งแต่ 3 นาทีแรก จากลูกโหม่งของ เอนเนร์ วาเลนเซีย ซึ่งแม้จะถูกจับล้ำหน้าไปเสียด้วยเทคโนโลยีช่วยตัดสิน แต่จากนั้นแค่นาทีที่ 15 เอกวาดอร์ ก็มาได้จุดโทษจากการเสียฟาวล์ของนายทวาร ซาอัด อัล เชเอ็บ ซึ่งเป็น วาเลนเซีย กดจุดโทษนำ 1-0 และต่อมานาที 31 วาเลนเซีย คนเดิมก็ขึ้นโขกลูกเปิดจาก อันเคโล่ เปรเซียโด้ จมตาข่ายเป็น 2-0
ครึ่งหลัง เกมของ กาตาร์ กระเตื้องขึ้นบ้าง แต่ก็ตีไข่แตกไม่สำเร็จ จบเกมแพ้ เอกวาดอร์ 0-2 จนเป็นชาติเจ้าภาพรายแรกที่แพ้เกมเปิดสนามฟุตบอลโลก
ภายหลังจบเกม กุนซือกาตาร์ เฟลิกซ์ ซานเชซ ยอมรับว่าผิดหวังกับฟอร์มการเล่นของลูทีมเป็นอย่างยิ่ง “ความจริงชัดเจนดีอยู่แล้ว ผมมีงานต้องทำอีกมาก”
“เรารู้สึกว่าเรายังได้รับการสนับสนุนจากแฟนบอล และหวังว่าจะทำได้ดีขึ้นในเกมหน้า ผู้คนจะรู้สึกภูมิใจ และสนับสนุนเราต่อไปในทัวร์นาเมนต์นี้ เรารู้ว่าความปราชัยสามารถเกิดขึ้นได้ และมันเป็นเกมที่ยากลำบาก เราจะพยายามเรียนรู้จากเกมนี้ และผมจะพยายามทำให้ผู้คนแฮปปี้กับฟอร์มของเราในที่สุด”
ส่วนทาง กุสตาโว่ อัลฟาโร่ กุนซืออาร์เจนไตน์ของ เอกวาดอร์ ระบุว่า “มันเป็นเกมที่สำคัญที่สุดในฟุตบอลโลกครั้งนี้ของเรา ไม่เพียงแต่เราต้องเล่นกับเจ้าภาพเท่านั้น เรายังต้องต่อสู้กับประวัติศาสตร์ (ชาติเจ้าภาพไม่เคยแพ้เกมเปิดสนาม) ด้วย นักเตะของเราทุ่มเทกันอย่างเต็มที่ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เราคว้าชัยชนะ”
ทั้งนี้ กาตาร์ จะลงเล่นนัดถัดไปพบ เซเนกัล 25 พ.ย. ส่วน เอกวาดอร์ จะพบกับ เนเธอร์แลนด์ ในวันเดียวกัน