แชมป์โลก 4 สมัย เยอรมนี ยังไม่ยอมตายง่ายๆ ไล่ตามตีเสมอ สเปน 1-1 เกมนัดสองของรอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มอี รักษาความหวังของการผ่านเข้ารอบน็อกเอาต์เอาไว้ได้ต่อ ด้านกลุ่มเอฟ หนึ่งในทีมตัวเต็ง เบลเยียม พลาดท่าอย่างหนักเข้าให้แล้ว พ่ายม้ามืด โมร็อกโก 0-2
เกมฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ เดินทางมาถึงนัดที่ 2 ของแทบทุกกลุ่มแล้ว แต่ยังคงมีทีมเดียวเท่านั้นที่สามารถเอาชนะได้ 2 เกมซ้อน คือแชมป์เก่า ฝรั่งเศส ที่การันตีพื้นที่ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายไว้อยู่รายเดียว ขณะที่กลุ่มอี ก่อนเตะวานนี้มีการกะเก็งกันว่า ทีมชาติญี่ปุ่น มีโอกาสเป็นอีกทีมที่ลอยลำไปก่อนเพื่อน หากว่าสามารถเอาชนะ คอสตาริกา ได้ แล้วในคู่ดึก สเปน เอาชนะหรือเสมอ เยอรมนี
กระนั้น ญี่ปุ่น กลับแพ้พลิกล็อกต่อ คอสตาริกา แต่หัววัน 0-1 ส่งผลให้ “ซามูไรสีน้ำเงิน” ยังไม่อาจตีตั๋วเข้ารอบได้ เช่นเดียวกับคลายความกดดันให้กับ “อินทรีเหล็ก” ไปในคราวเดียวกันว่าลูกทีมของ ฮันซี่ ฟลิค ไม่ถึงกับต้องเอาชนะ สเปน สถานเดียว
และเกมช่วงดึกระหว่าง สเปน กับ เยอรมนี ที่ อัล เบย์ท สเตเดี้ยม เมืองอัลคอร์ ก็เป็นไปอย่างสนุก โดยเฉพาะเมื่อทัพกระทิงดุพังประตูนำ 1-0 ในนาที 62 จากการปิดสกอร์ของหัวหอกตัวสำรอง อัลบาโร่ โมราต้า ซึ่งทำให้ เยอรมนี ต้องบุกแหลกเพื่อไม่ให้แพ้สองเกมซ้อน ก่อนที่จะตามตีเสมอสำเร็จจากกองหน้าตัวสำรองเช่นกันอย่าง นิคลาส ฟุลครุก ที่สบโอกาสตะบันผ่านมือ อูไน ซิมอน เข้าไปอย่างสวยงามในนาที 83
เกมจบที่ 1-1 และ เยอรมนี ได้หนึ่งแต้มแรก ทำให้พวกเขายังมีโอกาสเข้ารอบอยู่ในเกมสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม พฤหัสบดีที่ 1 ธ.ค. นี้ หากว่าสามารถเอาชนะ คอสตาริกา ได้ แม้ต้องดูผลของอีกคู่ ที่ ญี่ปุ่น จะเตะกับ สเปน ประกอบด้วยก็ตาม
หลังจบเกม ฮันซี่ ฟลิค กุนซืออินทรีเหล็ก กล่าวว่า “มันเป็นเกมที่น่าสนใจมาก ขอชมเชยทีมสำหรับการต่อสู้จนจบเกม แต่พวกเราเพิ่งเริ่มออกตัวก้าวแรกเท่านั้น ในเกมกับ คอสตาริกา พวกเราต้องก้าวไปยังขั้นต่อไป และเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายให้ได้”
“ในฐานะทีม พวกเราเข้ากันได้ดีมาก แม้ว่าคุณจะอ่านเจอสิ่งที่แตกต่างออกไป สิ่งที่ทีมทำได้ในวันนี้มหัศจรรย์มาก ผมภูมิใจจริงๆ พวกเราดวลกับทีมที่ยอดเยี่ยมในแง่ของฟุตบอลและพวกเราเล่นกับพวกเขาได้สูสี สภาพจิตใจของทีมยอดเยี่ยมมากๆ”
ด้านกลุ่มเอฟ ปรากฏผลเซอร์ไพรส์แต่หัววันเช่นกัน กับการที่ทีมอันดับ 2 ของโลกในตาราง ฟีฟ่า เวิลด์ แรงกิ้ง อย่าง เบลเยียม ไปไม่เป็นอย่างสิ้นเชิงในการดวลกับ โมร็อกโก โดยพ่ายให้กับคู่แข่งจากทวีปแอฟริกา 0-2 อับเดลฮามิด ซาบิรี่ กับ ซากาเรีย อาบูคลัล จัดการคนละเม็ดในนาที 73 และทดเจ็บ 90+2
ส่วนอีกคู่ โครเอเชีย โดน แคนาดา นำไปก่อน 1-0 ตั้งแต่นาทีที่ 2 จากการโขกของ อัลฟอนโซ่ เดวิส แต่หลังจากนั้นทีมตาหมากรุกก็ปูพรมถล่มชนะขาดลอย 4-1 อันเดรจ์ ครามาริช เบิ้ลสองเม็ด ที่เหลือ มาร์โก ลิวาย่า กับ ลอฟโร่ มาเยอร์ ซัดคนละประตู และกลุ่มเอฟเวลานี้ โครเอเชีย นำจ่าฝูงด้วยการมี 4 แต้มเท่า โมร็อกโก ขณะที่ เบลเยียม มี 3 แต้ม และ แคนาดา มี 0
สามทีมแรกยังต้องลุ้นต่อว่าใครจะเป็น 2 ทีมผู้เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย แต่สำหรับ แคนาดา ที่แพ้ 2 เกมซ้อน ตกรอบแรกอย่างเป็นทางการเรียบร้อยเป็นรายที่ 2 ถัดจากเจ้าภาพ กาตาร์ ทั้งนี้เกมสุดท้ายของกลุ่ม 1 ธ.ค. โครเอเชีย จะพบกับ เบลเยียม และ โมร็อกโก พบ แคนาดา