ตะลึง! ‘ซามูไร’ เข้า, เบียร์-เบลเยียมร่วงรอบแรก

0 คนดู

ฟุตบอลโลก 2022 ฟาดงวงฟาดงาอย่างหนัก จัดความพลิกล็อกมาเสิร์ฟคอบอลอย่างเต็มที่ คืนเดียวมีชาติยักษ์ใหญ่หลุดวงโคจร ร่วงรอบแรกออกไปถึง 2 ราย ได้แก่ เบลเยียม กับ เยอรมนี ตัวเต็งแชมป์โลกเบอร์ต้นๆ ทั้งคู่ ขณะที่ โมร็อกโก และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ญี่ปุ่น คว้าแชมป์กลุ่ม เข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายอย่างเซอร์ไพรส์

เกมเวิลด์ คัพ ที่ประเทศกาตาร์ วันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เริ่มต้นที่กลุ่มเอฟ ที่เป็นคู่ใหญ่ระหว่าง โครเอเชีย กับ เบลเยียม โดยที่สถานการณ์บังคับให้ “ปีศาจแดงแห่งยุโรป” ต้องเอาชนะให้ได้ ภายหลังรั้งอันดับ 3 ของกลุ่ม จากที่แพ้ โมร็อกโก มา 0-2 ก่อนหน้านี้

อย่างไรก็ตาม ลูกทีมของ โรเบร์โต้ มาร์ติเนซ กลับไม่สามารถเจาะหลังบ้าน โครเอเชีย เข้าได้แต่อย่างใด โดยเฉพาะ โรเมลู ลูกากู ที่ถูกส่งลงสำรองครึ่งหลัง และมีโอกาสใกล้เคียงต่อการทำประตู 3-4 ครั้ง ไม่อาจเปลี่ยนเป็นสกอร์ได้เลย ทั้งชนเสาบ้าง โหม่งข้ามคานบ้าง หรือจับลั่นห่างตัวบ้าง สุดท้ายจึงได้เพียงเสมอ 0-0

ด้านอีกคู่ โมร็อกโก สานต่อฟอร์มร้อนด้วยการสยบ แคนาดา 2-1 จากประตูของ ฮาคิม ซีเย็ค น.4 และ ยุสเซฟ เอ็น-เนซีรี่ น.23 ส่งผลกระทบชิ่งไปถึง เบลเยียม ว่าทำให้ตกรอบทันที และบทสรุปของกลุ่มเอฟกลายเป็น โมร็อกโก คว้าแชมป์กลุ่มมี 7 คะแนน, โครเอเชีย เข้ารอบในฐานะอันดับสอง 5 คะแนน, เบลเยียม 4 แต้ม และ แคนาดา 0 แต้ม ตกรอบ

อดีตทีมเบอร์ 1 โลกในอันดับฟีฟ่าเวิลด์แรงกิ้งอย่าง เบลเยียม หลุดวงโคจรของฟุตบอลโลก 2022 เพียงรอบแรกเท่านั้น หลังจากบอลโลกหนก่อนที่รัสเซีย ไปไกลถึงอันดับ 3 รวมทั้งในยูโร 2016 กับ 2020 ก็เข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายเป็นอย่างน้อย 

ต่อมาในคู่ดึก เป็นเกมปิดกลุ่มอี ที่ทั่วโลกต่างจับตามอง ด้วยสถานการณ์ก่อนเตะที่ สเปน นำจ่าฝูง, ญี่ปุ่น ยืนอันดับ 2, คอสตาริกา ที่ 3 และ เยอรมนี เป็นที่ 4 แต่ถ้า “อินทรีเหล็ก” ชนะได้ก็มีสิทธิ์เด้งเข้ารอบน็อกเอาต์ทันที ขึ้นอยู่กับผลของคู่ สเปน-ญี่ปุ่น เช่นกัน

เกมครึ่งแรกระหว่าง สเปน-ญี่ปุ่น เป็น “กระทิงดุ” ที่คุมสถานการณ์ได้อย่างเบ็ดเสร็จ พังประตูขึ้นนำแต่เนิ่นๆ จากลูกโหม่งของ อัลบาโร่ โมราต้า น.11 และครองเกมเหนือกว่าในระดับ 70% จนถึงมีโอกาสลุ้นสกอร์ที่ 2 ได้ด้วยแต่ปิดบัญชีไม่สำเร็จ

ปรากฏว่าครึ่งหลัง ฮาจิเมะ โมริยาสุ กุนซือซามูไรสีน้ำเงิน แก้เกมลงมาอย่างเห็นผล ได้ประตูตีเสมอ 1-1 อย่างรวดเร็วในนาที 48 จังหวะเล่นยึกยักจ่ายบอลหน้าเขตโทษตัวเองของแนวรับสเปน สุดท้ายโดนฉกและมาจบที่ ริตสึ โดอัน ตะบันผ่านมือ อูไน ซิมอน เข้าประตูไป

ญี่ปุ่น ยังฉวยโอกาสจู่โจมเร็วในขณะที่ สเปน กำลังเมาหมัด จนได้ประตูแซงนำ 2-1 ใน 3 นาทีให้หลังจากประตูแรก คาโอรุ มิโตมะ ตวัดลูกที่ก้ำกึ่งจะหลุดออกเส้นหลังไปแล้วกลับมาหน้าปากประตูให้ อาโอะ ทานากะ เข้าชาร์จโล่งๆ 

จากนั้นตลอดช่วงเวลาที่เหลือ สเปน ไม่สามารถทวงประตูคืนได้อย่างใด จบเกมจึงเป็น ญี่ปุ่น เอาชนะ 2-1 พร้อมกับแซงขึ้นยึดแชมป์กลุ่มอย่างสง่าผ่าเผย ชนะได้ทั้ง เยอรมนี และ สเปน ด้วยสกอร์เดียวกัน

สำหรับอีกคู่ เยอรมนี กับ คอสตาริกา ใส่กันไฟแล่บจนบันเทิงแฟนบอลอย่างยิ่ง แซร์จ นาบรี้ ยิงให้อินทรีเหล็กนำ 1-0 น.10 ก่อนครึ่งหลัง คอสตาริกา ฮึดยิงแซง 2-1 จาก เยลท์ซิน เตฮาด้า น.58 และการทำเข้าประตูตัวเองของ มานูเอล นอยเออร์ น.70 ทว่าในสิบกว่านาทีท้ายที่เหลือ เยอรมนี เร่งเครื่องจนได้อีกถึง 3 ประตูจาก ไค ฮาแวร์ตซ์ สองลูก น.73 และ 85 ก่อนปิดท้าย นิคลาส ฟุลล์ครุก ยิงปิดกล่องชนะ 4-2 น.89 

กระนั้น ชัยชนะของ เยอรมนี ไม่มีความหมายเมื่อบทสรุปของกลุ่มอี ออกมาว่า ญี่ปุ่น ครองแชมป์กลุ่ม มี 6 แต้ม, สเปน เข้าด้วยการเป็นอันดับสอง 4 แต้ม พร้อมผลต่างประตูได้เสีย +6 ส่วนทาง เยอรมนี แม้จะมี 4 แต้มเท่ากัน แต่ผลต่างอยู่ที่ +1 เท่านั้น จึงต้องตกรอบแรกไปพร้อมกับ คอสตาริกา ที่มี 3 คะแนน

ทั้ง เบลเยียม และ เยอรมนี ไม่อาจรอดพ้นรอบแรกฟุตบอลโลก 2022 ไปได้เช่นเดียวกับ เดนมาร์ก ที่ตกรอบอย่างพลิกล็อกเมื่อวันพุธ ในขณะที่รอบ 16 ทีมสุดท้าย ใกล้จะได้คู่แข่งขันครบถ้วนแล้ว เหลือเพียงรอลุ้นว่า บราซิล กับ โปรตุเกส จะได้เจอกับใคร

สำหรับรอบ 16 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2022 ที่ได้คู่แข่งขันแล้ว ประกอบด้วย

เนเธอร์แลนด์ vs สหรัฐอเมริกา

อาร์เจนติน่า vs ออสเตรเลีย

ฝรั่งเศส vs โปแลนด์

อังกฤษ vs เซเนกัล

ญี่ปุ่น vs โครเอเชีย

โมร็อกโก vs สเปน

โดยจะเริ่มแข่งขันกันวันเสาร์ที่ 3 ธ.ค. นี้ เป็นต้นไป วันละ 2 คู่ จากนั้นเมื่อสิ้นสุดรอบ 16 ทีมสุดท้ายลงแล้วจะมีการพักเบรคทัวร์นาเมนต์ หยุดเตะ 2 วัน (7-8 ธ.ค.) ก่อนกลับมาสาดแข้งรอบ 8 ทีมสุดท้าย ศุกร์ที่ 9 ธ.ค. ต่อไป

แชร์ให้เพื่อน