เฮสองต่อ! ‘เมสซี่’ ยันยังไม่เลิกเล่นทีมชาติ

0 คนดู

หลังจบเกมชี้แชมป์โลก อาร์เจนติน่า ชนะจุดโทษ ฝรั่งเศส 4-2 ฝั่งฟ้าขาวยังได้ข่าวดีต่อเนื่อง กับการที่ ลิโอเนล เมสซี่ ยอดดาวยิงกัปตันทีม ยืนยันจะยังคงลงเล่นทีมชาติต่อไป ไม่ด่วนตีจากโดยเร็ว แม้อายุอานามจะไม่น้อยแล้วที่ 35 ปีก็ตาม

ก่อนหน้าทัวร์นาเมนต์ที่กาตาร์ เมสซี่ ประกาศไว้แล้วว่านี่จะเป็นฟุตบอลโลกครั้งสุดท้ายของตัวเอง ภายหลังลงเล่น เวิลด์ คัพ มาเป็นสมัยที่ 5 และรับใช้ชาติมาตั้งแต่ปี 2005 

อย่างไรก็ตาม ภายหลังนำทีมขึ้นบัลลังก์แชมป์โลกเป็นผลสำเร็จ ยอดแข้งจาก ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ก็ยืนยันว่าจะไม่รีบเลิกเล่นทีมชาติในเร็ววัน แม้ยังไม่แน่ใจอนาคตว่าจะยังอยู่โยงเล่นจนถึงฟุตบอลโลกครั้งหน้า ปี 2026 ที่สหรัฐอเมริกา-เม็กซิโก-แคนาดา หรือไม่

“ผมยังไม่รีไทร์จากอาร์เจนติน่า ผมต้องการเล่นต่อในฐานะแชมป์ เราเหนื่อยกันมาก แต่เราเป็นแชมป์โลกแล้วในตอนนี้”

“ผมต้องการเล่นต่อ ผมไม่อาจขออะไรมากกว่านี้ได้อีกแล้ว ขอบคุณพระเจ้าที่มอบทุกอย่างให้ผม”

เมสซี่ ยังกล่าวถึงชัยชนะว่า “นี่คือแชมป์ที่ขาดหายไปของผม ตอนนี้ผมได้มาครองแล้ว มันบ้ามากๆ ตอนนี้ผมรอไม่ไหวแล้วที่จะกลับไปฉลองแชมป์ที่ประเทศของผม เพื่อพบเจอกับความบ้าคลั่งของที่นั่น”

 “เราเจอกับความยากลำบากมากมาย วันนี้คุณต้องการอะไรไปมากกว่านี้อีก ฟุตบอลเป็นกีฬาที่บ้าคลั่งมาก การคว้าแชมป์โลกเป็นความฝันของเด็กๆ ทุกคน นี่คือแชมป์สำหรับประชาชนชาวอาร์เจนไตน์”

ส่วนทางกุนซือฟ้าขาว ลิโอเนล สคาโลนี่ บอก “ผมรู้สึกภาคภูมิใจมากๆ ผมอาจรู้สึกตื่นเต้นน้อยกว่าวันอื่นๆ แต่วันนี้ผมได้รับการปลดปล่อยอย่างเต็มที่ ทีมชุดนี้ทำให้ผมภาคภูมิใจเป็นที่สุด ความสำเร็จทั้งหมดนี้เป็นของพวกเขา ผมอยากบอกทุกคนว่ามีความสุขให้เต็มที่ เพราะนี่คือช่วงเวลาประวัติศาสตร์” 

ด้าน ดิดิเย่ร์ เดส์ชองส์ นายใหญ่ฝรั่งเศส กล่าวว่า “เราไม่ได้พลิกสถานการณ์ (ในช่วง 70 นาทีแรก) ด้วยเหตุผลหลายอย่าง เราต้องเผชิญกับอุปสรรคหลายอย่างตลอด 4 วันที่ผ่านมา อาการป่วยและจากนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นกับทีมด้วย”

ขณะที่ อูโก้ โยริส กัปตันทีมตราไก่ เผยว่า “เราตอบสนองได้ดีมาก (ตีเสมอ 2-2) มันเกือบจะเหมือนการแข่งขันชกมวย เราแลกกันหมัดต่อหมัด สิ่งเดียวที่เราเสียใจคงเป็นผลงานในครึ่งแรก แม้ว่าจะเป็นเช่นนั้นเราก็ยังไม่ยอมแพ้ เราเชื่อมั่นไปจนจบ มันเป็นการตัดสินผู้ชนะจากการดวลจุดโทษ”

 “มันเป็นเรื่องเจ็บปวดเสมอเมื่อต้องมาอยู่อีกฝั่ง (ของผู้ชนะ) แต่เราทุ่มเททุกอย่างลงไปในรายการนี้ตั้งแต่เริ่มต้นจนจบการแข่งขัน มันเป็นการแข่งขันที่ยาวนานนับเดือน”

 “ในรอบชิงชนะเลิศ เราสามารถตามหลัง 0-2 ได้ แต่เรายังคงเชื่อมั่นไปจนจบ เราสามารถพลิกสถานการณ์ แต่มันกลับไม่มีรอยยิ้ม โดยเฉพาะโอกาสในนาที 120 (ร็องดาล โคโล่ มูอานี่ ยิงติดเซฟ เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ) ซึ่งน่าจะทำให้เราพลิกนำ 4-3”

 “มันคือฟุตบอล เราต้องยินดีกับอาร์เจนติน่าที่ประสบความสำเร็จในรายการที่ยอดเยี่ยม รอบชิงชนะเลิศที่ยอดเยี่ยม”

แชร์ให้เพื่อน