สหพันธ์ฟุตบอลโปรตุเกส ออกโรงปฏิเสธรายงานข่าวที่ว่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ยอดดาวยิงกัปตันทีม ออกลูกงอแง ขู่จะอำลาศึกฟุตบอลโลก 2022 ไปกลางคัน หลังถูกดร็อปเป็นตัวสำรองในเกมรอบ 16 ทีมสุดท้าย ที่ โปรตุเกส กราดยิง สวิตเซอร์แลนด์ 6-1 เมื่อวันก่อน
เรคอร์ด สื่อแดนฝอยทอง ปูดรายงานไว้ก่อนหน้านี้ว่า โรนัลโด้ ได้บอกกับกุนซือ แฟร์นันโด ซานโตส ว่าเขาตัดสินใจจะเก็บข้าวของออกจากทีมชาติไปกลางทางทัวร์นาเมนต์บอลโลก เนื่องจากไม่พอใจหลังถูกดร็อปเป็นตัวสำรองในเกมชนะ สวิตเซอร์แลนด์ 6-1 ก่อนสงบสติอารมณ์ลง และตระหนักว่าการอำลาทีมในช่วงเวลานี้จะส่งผลกระทบต่อทีมอย่างมาก
กรณีนี้เกิดขึ้นให้หลังจากข้อพิพาทของ โรนัลโด้ กับทาง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ดาวเตะวัย 37 ถูกดร็อปจาก เอริก เทน ฮาก อย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งมาถึงจุดแตกหักที่ โรนัลโด้ ไปให้สัมภาษณ์ขนาดยาวกับ เพียร์ส มอร์แกน โจมตีทั้งสโมสรและเจ้านายชาวดัตช์ ก่อนที่ แมนฯ ยูไนเต็ด จะแถลงยกเลิกสัญญาที่เหลืออีก 7 เดือน ไม่รวมออปชั่นต่อเพิ่มอีกปี
อย่างไรก็ตาม สหพันธ์ฟุตบอลโปรตุเกส ปฏิเสธว่ามีเหตุการณ์ทำนองนี้เกิดขึ้น “ไม่ได้มีตอนไหนที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ได้ขู่ว่าจะอำลาทีมชาติไประหว่างอยู่ที่กาตาร์” พร้อมทั้งปกป้อง โรนัลโด้ ว่าอุทิศตนและทุ่มเทเพื่อทีมชาติมาโดยตลอด
ด้าน ซานโต๊ส ก็ยืนยันว่าตัวเขาไม่ได้เจอปัญหาแทรกซ้อนอะไรกับการดร็อป โรนัลโด้ เป็นตัวสำรอง เพราะมีการพูดคุยกันก่อนหน้าเกมแล้ว และกัปตันทีมวัย 37 ก็ยอมรับการตัดสินใจครั้งนี้ได้แต่โดยดี โดยเฉพาะเมื่อ กอนซาโล่ รามอส หัวหอกดาวรุ่งวัย 21 ที่ลงไปแทนเขา ระเบิดแฮตทริกใส่ สวิตเซอร์แลนด์ ได้จนชนะขาด 6-1 เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายและยังคงอยู่ในเส้นทางตามล่าแชมป์โลกสมัยแรก
ยังมีรายงานเสริมจากบางแหล่งว่า โรนัลโด้ พร้อมรับสถานะตัวสำรองกับเกมที่เหลือของฟุตบอลโลก 2022 หากว่าทีมยังคงความร้อนแรงจนไปได้ต่อถึงสุดทาง นัดชิงชนะเลิศที่ลูเซล ไอคอนิก สเตเดี้ยม เมื่อมั่นใจว่าตัวเขาจะได้ลงสนามในช่วงหนึ่งช่วงใดของเกมชิงดำอย่างแน่นอน เพื่อช่วยทีมผงาดครองแชมป์โลกครั้งแรก
ทั้งนี้ โปรตุเกส จะลงเล่นรอบ 8 ทีมสุดท้ายพบกับ โมร็อกโก ในวันเสาร์ที่ 10 ธ.ค. นี้้ ซึ่งหากว่าเอาชนะได้ จะเข้าไปพบกับผู้ชนะของคู่ อังกฤษ-ฝรั่งเศส ในรอบตัดเชือก